BikeXenger เมสเซนเจอร์สีเขียว
กว่าร้อยปีเศษ อาชีพ Bike Messenger หรือนักปั่นส่งเอกสารได้ถือกำเนิดขึ้นในยุโรปพร้อมๆ กับความนิยมในการใช้จักรยานในฐานะ “พาหนะคู่กาย” แต่สำหรับเมืองไทย กระแสความนิยมใน “เชิงแฟชั่น” ได้นำพาจักรยานเข้ามาในฐานะไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนเมือง
กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แนวคิดของอาชีพนักปั่นส่งเอกสารและพัสดุก็ถือกำเนิดขึ้นโดยชนส่วนหนึ่งในนักปั่นกลุ่ม “จามจุรีสแควร์” พวกเขาเรียกตัวเองว่า “BikeXenger” สื่อถึงความเป็น Bike Messenger สมาสสนธิเข้ากับ Xpress เพื่อสร้างจุดขายด้านความรวดเร็วในงานบริการ ผสานกลิ่นอายแห่งขบวนการยอดมนุษย์ Rangers โดยหลักๆ ขบวนการนี้ประกอบด้วย ปณต พุทไธสง, มนตรี ฉันทะยิ่งยง และ สิริชัย วัฒนสุทธิพงศ์ สิ่งที่คล้ายคลึงกับฮีโร่ห้าสีคือยูนิฟอร์มเข้ารูปขณะทำงาน และอุดมการณ์เพื่อพิทักษ์โลก ต่างกันที่ยอดมนุษย์ Bikexenger ใช้ (หัวใจ) สีเขียวเหมือนกันทุกคน ชู Green Service และจบภารกิจด้วยพลัง “ลำแข้ง”
กำเนิดวินจักรยานรับจ้าง
“วิน” ของกลุ่ม BikeXenger อยู่ที่จามจุรีสแควร์เป็นหลัก ที่นั่นไม่ได้เป็นออฟฟิศ หากแต่เป็นที่สำหรับ “สแตนด์บาย”...ที่ใดมีร้านกาแฟชิลๆ ที่นั่นก็พร้อมจะมีวินของ BikeXenger
“วิน” ของกลุ่ม BikeXenger อยู่ที่จามจุรีสแควร์เป็นหลัก ที่นั่นไม่ได้เป็นออฟฟิศ หากแต่เป็นที่สำหรับ “สแตนด์บาย”...ที่ใดมีร้านกาแฟชิลๆ ที่นั่นก็พร้อมจะมีวินของ BikeXenger
BikeXenger เกิดจากนักปั่นจำนวนเล็กๆ ในกลุ่มจามจุรีสแควร์ “ปณต” เล่าว่าเมื่อสามปีก่อนได้มีการริเริ่มรวมก๊วนคนรักจักรยานในย่านสี่พระยา สาทร สีลม โดยโพสต์กระทู้ชวนปั่นลงบนเว็บไซต์ ThaiMTB จากสิบคนก็เพิ่มขึ้นเป็น 30-40 คนในปัจจุบัน จากพบกันเดือนละครั้ง ก็เริ่มขยับเป็นสัปดาห์ละครั้ง และกลายเป็นเจอกันทุกวัน “พอเลิกงานพวกเราไม่รู้จะไปไหน ลองสุ่มๆ ปั่นมาที่จามจุรีสแควร์ดู อ้าวก็มีเพื่อนๆ มานั่งรออยู่เหมือนกันนี่” เขาเองมาเจอกับ “มนตรี” ที่นี่โดยมิได้นัดหมาย มนตรีใช้จักรยานเป็นพาหนะจากอินเนอร์ส่วนตัวมาแต่แรก
“ผมทำงานอยู่แถวๆ บางรัก นั่งรถไปกลับร่วมๆ 6 ชั่วโมง มันไม่ไหว รถติดเมื่อไหร่ผมต้องโดดลงมา เพราะเดินครึ่งชั่วโมง ยังดีกว่ายืนอยู่เฉยๆ ตั้งครึ่งชั่วโมง”
ตลอดสามปี นักปั่นกลุ่มจามจุรีสแควร์ทำกิจกรรมร่วมกันมาแล้วแทบทุกอย่างยิ่งกว่าพี่แอ็ดเมืองไทยสไมล์คลับ ทั้งกินเที่ยวและออกทริปจน “หมดมุก” พวกเขาจึงมานั่งคิดกันต่อว่ายังมีกิจกรรมอะไรที่นักปั่นสามารถทำร่วมกันได้อีก ไอเดียของงานบุญจึงเกิดขึ้น “ก่อนหน้านี้เราก็ไปตามสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ออกทริปซ่อมจักรยานให้เด็กต่างจังหวัด แล้วตอนนั้นสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทยกำลังระทมทุนเพื่อซื้อจักรยานให้เด็กพอดี เราก็เลยตั้ง “บุญไบค์” ขึ้นมาในเน็ต ปั่นไปรับของบริจาคมาประกาศขาย พอมีคนซื้อ เราก็ปั่นไปส่งของ แล้วเอาเงินที่ได้รวมกับค่าปั่นที่คิดราคาเดียวแค่ 40 บาท ไปร่วมสมทบทุนซื้อจักรยานให้สมาคมฯ”
กระทั่งภายหลังมีข้อเสนอในกลุ่มว่าทำไมเราไม่ปั่นจักรยานเป็นอาชีพเสียเลย สมาชิกจามจุรีฯ ราวสิบคนจึงศึกษาโมเดล “Bike Messenger” ของต่างประเทศ จนเกิดโครงการ BikeXenger และได้รับทุนสนับสนุนเบื้องต้นจากสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ จักรยานรับจ้างในเมืองกรุงจึงเกิดขึ้น
“นักข่าวญี่ปุ่นเขาทึ่งที่พวกเรากล้าปั่นในกรุงเทพฯ เขาบอกว่าใครปั่นในกรุงเทพฯ ได้ ก็จะปั่นได้ทุกที่ในโลก เพราะการจราจรบ้านเราไม่เป็นระเบียบ แถมนิสัยคนใช้ถนนก็ดูใจร้อน” ปณตถ่ายทอดเรื่องตลก (ร้าย) แต่จริง
กลยุทธ์แบบวิน – วิน : รายได้ ภาพลักษณ์องค์กร และความยั่งยืน
“ในเมืองไทย มันเหมือนจะโตแต่ก็ยังไม่โต คนเรียกใช้งานก็มีอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ได้โตเปรี้ยงปร้าง พอออกทีวีทีหนึ่งก็กระหน่ำโทรเข้ามา แล้วก็ซาไปจนกว่าจะออกรายการใหม่ ออกสื่อช่วยให้เราดังจริงครับ แต่คนไทยยังไม่ค่อยใช้บริการ” ปณตเล่าถึงวัฏจักรที่เริ่มคุ้นชิน “ตอนนี้เราเลยพยายามเปิดตลาดด้วยการบุกไปบริษัทต่างๆ เพื่อเสนอบริการของเราที่ยังใหม่อยู่มากๆ และกำลังจะรับสมัครนักการตลาดเข้ามาช่วยงานด้วย”
“ในเมืองไทย มันเหมือนจะโตแต่ก็ยังไม่โต คนเรียกใช้งานก็มีอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ได้โตเปรี้ยงปร้าง พอออกทีวีทีหนึ่งก็กระหน่ำโทรเข้ามา แล้วก็ซาไปจนกว่าจะออกรายการใหม่ ออกสื่อช่วยให้เราดังจริงครับ แต่คนไทยยังไม่ค่อยใช้บริการ” ปณตเล่าถึงวัฏจักรที่เริ่มคุ้นชิน “ตอนนี้เราเลยพยายามเปิดตลาดด้วยการบุกไปบริษัทต่างๆ เพื่อเสนอบริการของเราที่ยังใหม่อยู่มากๆ และกำลังจะรับสมัครนักการตลาดเข้ามาช่วยงานด้วย”
หลังจากเก็บเช็ควางบิลเสร็จ เหล่า BikeXenger ก็จะทำหน้าที่เซลส์ต่อ จนพบว่าองค์กรที่หันมาใช้บริการ Bikexenger มักจะเป็นบริษัทใหม่ที่มีขนาดเล็ก เจ้าของบริษัทมีอำนาจตัดสินใจ หรือเป็นบริษัทคนไทยที่เห็นความสำคัญของคอนเซ็ปต์รักษ์โลก เพราะแม้ผู้บริหารชาวต่างชาติจะคุ้นเคยกับ Bike Messenger ในบ้านเกิดเป็นอย่างดี แต่บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่มักมีสัญญาจ้างเมสเซนเจอร์ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์อยู่ก่อนแล้ว “บางคนถามว่าพวกเราบ้ารึเปล่า มอเตอร์ไซค์ก็มีให้ใช้ เราตอบไปว่า เราอยากจะเปลี่ยนแปลงอากาศในกรุงเทพฯ”
“โรงงานน้ำปลาไทย ตราปลาหมึก” เป็นตัวอย่างลูกค้าประจำรายแรกของ BikeXenger ที่มีการจ่ายงานให้เป็นประจำทุกวันจนถึงปัจจุบัน “เขาต้องชอบคอนเซ็ปต์ของเราก่อน อย่างบริษัทหนึ่งแถวอาร์ซีเอมีแมสเซนเจอร์ของเขาอยู่แล้ว แต่ก็อุตส่าห์แบ่งงานมาให้เรา”
“ช่วงแรกๆ เราต้องอธิบายให้ตลาดเข้าใจในเรื่องราคาเสียก่อน เพราะเราสตาร์ทที่ราคา 50 บาทบวกกับระยะทางที่เพิ่มขึ้น กม.ละ 15 บาท หลายคนบ่นว่าแพงกว่ามอเตอร์ไซค์ทั้งที่ไม่ได้ใช้น้ำมัน แล้วจะช้ากว่ารึเปล่า เราบอกได้เลยว่ารถติดๆ อย่างนี้ เราทำความเร็วได้ไม่ต่างจากมอเตอร์ไซค์แน่นอนครับ เราซอกแซกได้ดีกว่าด้วยซ้ำ” มนตรีแย้ง
เพื่อลบข้อกังขาด้านราคา BikeXenger จึงชูอีกหนึ่งจุดขายด้วย “บริการที่เหนือกว่า” เพราะไม่ใช่แค่การนำเอกสารและพัสดุไปส่ง หากแต่ BikeXenger จะเก็บงานให้ลูกค้าจนเป๊ะ ในกรอบเวลาที่เที่ยงตรง “เรามีการเทรน เช่น วางบิลเก็บเช็คต้องทำยังไง เส้นทางต้องแม่น ไม่ใช่โทรไปถามทางบ่อยๆ”
นอกจากนี้ เมื่อส่งงานเสร็จ ทีมงานจะถ่ายรูปกับผู้รับเพื่อนำมาลงเฟซบุ๊ก ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดการบอกต่อ นัยหนึ่งยังช่วยสานสัมพันธ์ที่ดีเพื่อสร้างโอกาสในการได้ลูกค้ารายใหม่ ในขณะที่องค์กรนั้นๆ ก็สามารถใช้จุดนี้แสดงภาพลักษณ์ CSR ได้เนียนๆ
นอกจากกลุ่มองค์กร ลูกค้าขาจรรายบุคคลก็เรียกใช้บริการ BikeXenger ด้วยสัดส่วนที่มากพอตัว มนตรีบอกว่าลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นคนไทยที่ให้เหตุผลว่า เพราะบริการนี้เป็นความแปลกใหม่ ในขณะที่บางส่วนแค่อยากลอง มีเพียงส่วนน้อยที่ใช้บริการเพราะตระหนักว่าจักรยานเป็นพาหนะรักษ์โลก
เฉพาะนิวยอร์กเพียงแห่งเดียวก็มีบริษัท Bike Messenger กว่า 500 แห่ง มีนักปั่นอาชีพร่วมๆ 5,000 คน มีการวางระบบงานที่ชัดเจน และที่สำคัญมีการแข่งขันกันระหว่างเอาต์ซอร์สต่างๆ อย่างดุเดือด
BikeXenger ทั้งสามหันมาเป็นนักปั่นเต็มเวลา โดยมนตรีลาออกจากงานออฟฟิศเพราะมั่นใจว่าในอนาคตน่าจะมีลู่ทางทำให้ตลาดงานบริการนี้เติบโตในเมืองไทย เขาเห็นว่า “ตลาดนี้มันใหญ่มาก แค่จับตลาดเล็กๆ เราก็อยู่ได้แล้ว คู่แข่งก็ไม่มี เราเป็นเบอร์หนึ่ง อาชีพนี้ในเมืองใหญ่ทั่วโลกโตหมด ทำไมกรุงเทพฯ จะมีไม่ได้”
ในขณะที่ “สิริชัย” มีธุรกิจส่วนตัวด้านอาหาร เช่นเดียวกับ “ปณต” ที่มีสำนักงานทนายความของตัวเอง ซึ่งทั้งสองคนได้แบ่งเวลาจากหน้าที่การงานหลักของตัวเองออกมาทำหน้าที่ปั่นจักรยาน
ค่าบริการจัดส่งคิดตามระยะทางและน้ำหนักของสินค้า “ศาลายาก็ไปมาแล้ว ล่าสุดจะให้ไปธรรมศาสตร์รังสิต เขาบอกว่ามอเตอร์ไซค์ไม่ยอมไป” มนตรีเล่าเคสแปลกๆ ที่เพิ่งโทรเข้ามาว่า “ลูกค้าจะให้ไปรับขนมปัง 6 แผ่นจากร้านมนต์นมสดไปส่งที่ระยอง ค่าปั่น 2,000 กว่าบาท ถ้าเขากล้าจ่าย เราก็ไปทุกที่ครับ”
ระหว่างวันธรรมดา จะมีงานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยช่วงฮอตสุดๆ ของ BikeXenger คือ วันวาเลนไทน์ กามเทพบนหลังอานเล่าว่าเขาตระเวนส่งดอกไม้ให้คู่รักตั้งแต่ตีสี่จนถึงเที่ยงคืนโดยไม่หยุดหย่อน รองลงมาเป็นเทศกาลหยุดยาวที่ไปรษณีย์หยุดทำการ เช่น สงกรานต์ หรือปีใหม่ที่คนนิยมให้ของขวัญกัน
เพื่อรับมือกับปริมาณงานที่น่าจะเพิ่มขึ้น ทีม BikeXenger จึงประกาศหาพนักงานใหม่ “คนสมัครเยอะมากครับ ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทั้งนั้น จบโทจบนอก ปริญญาหลายใบมีหมด ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าอยากใช้จักรยานเป็นอาชีพเพราะสนุกและมีรายได้ บางคนบอกว่าพร้อมจะลาออกจากออฟฟิศที่เครียดๆ เลยทันที”
สุดท้ายเขายังแนะว่า หากต้องการส่งเสริมให้คนหันมาเดินทางด้วยจักรยาน รัฐต้องขจัดความสะดวกสบายของการใช้รถเสียก่อน “รถติดก็ปล่อยให้ติดไป ไม่ต้องไปสร้างถนนทำสะพานเพิ่มให้ เดี๋ยวคนก็จะหันมาเห็นข้อได้เปรียบของจักรยานเอง”
Did You Know
- การแข่งขัน “Cycle Messenger World Championship” เป็นงานชุมนุมของนักปั่นส่งเอกสารโดยเฉพาะ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ล่าสุดในเดือนกรกฎาคม จัดที่กรุงวอร์ซอ โปแลนด์
- กระเป๋าสะพายเฉียงหรือเป้ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับ Bike Messenger เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดของนักปั่น คุณสมบัติที่ควรมีคือความทนทาน จุของได้เยอะ หยิบงานได้รวดเร็ว สะท้อนแสงยามค่ำคืนได้ มีช่องใส่โทรศัพท์หรือวิทยุสื่อสารบนสายบ่า เป็นต้น แบรนด์ยอดนิยมก็ได้แก่ Chrome, Crumpler และ Timbuk2 ฯลฯ ซึ่งออกแบบโดยเจ้าของแบรนด์ซึ่งเคยเป็นนักปั่นส่งเอกสารมาก่อน
(ศศิขวัญ ศรีกระจ่าง Positioning Magazine 10 สิงหาคม 2554)
- การแข่งขัน “Cycle Messenger World Championship” เป็นงานชุมนุมของนักปั่นส่งเอกสารโดยเฉพาะ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ล่าสุดในเดือนกรกฎาคม จัดที่กรุงวอร์ซอ โปแลนด์
- กระเป๋าสะพายเฉียงหรือเป้ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับ Bike Messenger เป็นสิ่งจำเป็นที่สุดของนักปั่น คุณสมบัติที่ควรมีคือความทนทาน จุของได้เยอะ หยิบงานได้รวดเร็ว สะท้อนแสงยามค่ำคืนได้ มีช่องใส่โทรศัพท์หรือวิทยุสื่อสารบนสายบ่า เป็นต้น แบรนด์ยอดนิยมก็ได้แก่ Chrome, Crumpler และ Timbuk2 ฯลฯ ซึ่งออกแบบโดยเจ้าของแบรนด์ซึ่งเคยเป็นนักปั่นส่งเอกสารมาก่อน
(ศศิขวัญ ศรีกระจ่าง Positioning Magazine 10 สิงหาคม 2554)
No comments:
Post a Comment